- แมงกะพรุนเป็นสัตว์น้ำที่มีระบบการทำงานของร่างกายไม่ซับซ้อน มีลำตัวโปร่งใส ร่างกายประกอบด้วยเจลาตินเป็นส่วนใหญ่ สามารถมองเห็นเข้าไปได้ถึงอวัยวะภายใน
- พบแพร่กระจายอยู่ทั่วโลก ส่วนใหญ่ดำรงชีวิตอยู่ในทะเล แต่บางชนิดอยู่ในน้ำจืด พบได้ทั้งในบริเวณน้ำตื้นทั่วไป, ผิวน้ำ, และทะเลลึก ทั้งในทะเลเขตร้อนไปจนถึงทะเลน้ำแข็งบริเวณขั้วโลก
- ใช้หนวดและเข็มพิษคอยจับสัตว์เล็กๆ ที่ลอยมาตามน้ำ เช่น แพลงค์ตอน ปลา กุ้ง ปู ไข่ปลา รวมถึงแมงกะพรุนด้วยกัน กินเป็นอาหาร
- ไม่ค่อยมีศัตรูหรือคู่แข่งตามธรรมชาติ มีผู้ล่าหลักคือ เต่าทะเล ปลาทูน่า ปลาฉลาม ปลาพระอาทิตย์ (Sunfish) และแมงกะพรุนด้วยกัน … (ถ้าจะมีผู้ล่าตัวสำคัญ ก็คงเป็นมนุษย์นี่ล่ะที่บริโภคแมงกะพรุนมากที่สุดแล้ว)
เรื่องน่าทึ่งของแมงกะพรุน
เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สุดในโลก
แมงกะพรุนเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการน้อยมาก นับตั้งแต่เกิดขึ้นมาในโลก อาศัยอยู่ในโลกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ล้านปี (อาจถึง 700 ล้านปีหรือกว่านั้น) จึงนับเป็นสัตว์ที่ดึกดำบรรพ์ที่สุดในโลก
มีขนาดตั้งแต่เล็กจิ๋วไปจนถึงยาวหลายสิบเมตร
แมงกะพรุนชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ แมงกะพรุนขนสิงโต (Cyanea capillata) ที่เมื่อแผ่ออกแล้วอาจมีความกว้างได้ถึงเกือบ 3 เมตร และยาวถึง 37 เมตร ปรกติพบในอาร์กติก, มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และมหาสมุทรแปซิฟิคเหนือ
*ข้อมูลจาก British Jellyfish
จัดเป็นแพลงก์ตอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นสัตว์ที่ไม่มีหัวใจ ไม่มีกระดูก ไม่มีระบบเลือด และไม่มีสมอง มีเพียงระบบประสาทพื้นฐานเท่านั้น
มีระบบการเคลื่อนที่ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในบรรดาสัตว์น้ำทั้งหมด
เคลื่อนที่ด้วยการหดขยายร่างกายรูประฆังของตัวเอง เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนดันตัวไปข้างหน้า จึงใช้พลังงานน้อย ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนที่ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในบรรดาสัตว์น้ำทั้งหมด
แมงกะพรุน แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
แมงกะพรุนแท้ (Scyphozoa)
มีทั้งที่ชนิดที่มีพิษรุนแรงมาก เช่น แมงกะพรุนไฟหลายชนิดที่มักจะมีสีแดงหรือส้ม ไปจนถึงชนิดที่มีพิษรุนแรงน้อยถึงน้อยมาก และพิษจะถูกทำลายไปเมื่อโดนความร้อน เช่นแมงกะพรุนที่เรานำมาทำเป็นอาหาร
แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish หรือ Sea Wasp)
เป็นแมงกะพรุนมีพิษรุนแรงมาก และเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากแมงกะพรุนทั่วโลก เป็นแมงกะพรุนกลุ่มที่มีวิวัฒนาการสูงกว่ากลุ่มอื่น มีอวัยวะรับแสง และสามารถกำหนดทิศทางการเคลื่อนที่ได้
แมงกะพรุนกลุ่มนี้มีลำตัวใสถึงใสมาก มีตุ่มหนวด … มีขนาดเล็ก ที่พบทั่วไปมีขนาด 5-10 เซนติเมตร แต่หนวดอาจยาวได้ถึงสิบกว่าเมตร ชนิดที่เล็กสุดชื่อ Irkundji มีขนาดเพียง 5 ม.ม. แต่มีพิษรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
Sea Wasp คำนี้แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวว่า “แตนทะเล” แต่เป็นคนละอย่างกับแตนทะเลที่เราเรียกกัน จัดอยู่ในวงศ์ Cubozoa
แมงกะพรุนไฟขวดฟ้า (Portuguese Man o’ War)
ซึ่งจัดเป็นสัตว์คนละกลุ่มกับ 2 กลุ่มแรก แม้จะอยู่ในไฟลัม Cnidaria เหมือนๆ กัน มีการทำงานของเข็มพิษแตกต่างกัน มีพิษรุนแรงมาก เมื่ออยู่บนชายหาดจะดูคล้ายถุงพลาสติกมาก
ประโยชน์ของแมงกะพรุน
เรามักจะนึกถึงแมงกะพรุนในฐานะสัตว์อันตรายใต้ทะเล แต่ที่จริงในบรรดาแมงกะพรุนทั้งหมดที่คาดการว่ามีราว 30,000 ชนิด และเป็นที่รู้จักกันดีราว 2,000 ชนิดนั้น มีเพียงราว 70 ชนิดที่มีอันตรายต่อมนุษย์
แมงกะพรุนหลายชนิดที่มนุษย์เรานำมารับประทานเป็นอาหารได้ ที่รู้จักกันดี คือ แมงกะพรุนหนัง (Rhopilema spp.) แมงกะพรุนจาน (Aurelia spp.) แมงกะพรุนลอดช่อง และแมงกะพรุนหอม สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายประเภท อาทิ ยำ และเป็นส่วนประกอบสำคัญของเย็นตาโฟ
ชาวจีนมีการรับประทานแมงกะพรุนมาไม่ต่ำกว่า 1,000 ปีแล้ว โดยชาวประมงจะเก็บจากทะเล และผ่าออกทำการตากแห้งและหมักกับเกลือ, สารส้ม และโซเดียม ก่อนจะนำออกขาย
คุณค่าทางอาหารของแมงกะพรุน คือ มีโปรตีนสูงและแคลอรีต่ำ เป็นโปรตีนประเภทคอลลาเจนสามารถรับประทานได้ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าคอลลาเจนจากแมงกะพรุนอาจจะมีส่วนรักษาโรคไขข้ออักเสบ และโรคหลอดลมอักเสบ ตลอดจนทำให้ผิวหนังนุ่มนวลด้วย